พัฒนาการเด็ก 6 เดือน :
วิธีส่งเสริมพัฒนาการ : ยิ้มแย้มพูดคุยโต้ตอบกับลูก เรียกชื่อลูกในทิศทางต่างๆ ให้ลูกตอบสนอง
ร้องเพลงให้ลูกฟังให้ลูกอารมณ์ดี เด็กวัยนี้เริ่มทำเสียงสูงๆต่ำๆได้ ทำเสียงออกจากปากตามเสียงเพลงที่ฟังแล้ว
ลูกชอบจับของโยนลงพื้น คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรดุ แต่ควรเก็บเอามาส่งให้ลูก ลูกจะโยนทิ้งอีกเรื่อยๆ
หรือถ้าลูกโยนของที่อันตรายให้เปลี่ยนเป็นลูกบอลหรือของเล่นอื่น การโยนของถือเป็นพัฒนาการอย่างหนึ่งเช่นกัน
เริ่มอาหารเสริมให้ลูก โดยมื้อแรกอาจจะเป็นข้าวบดราดนมที่น้องกินประจำ และเทสอาหารทีละชนิด
ชนิดละ 3-7 วัน เพื่อป้องกันการแพ้ ยังไม่ให้เริ่มเนื้อสัตว์ในวัยนี้
อุปกรณ์-ของเล่นเสริมพัฒนาการ :
ของเล่นยางกัด : เด็กในวัยนี้ฟันอาจจะเริ่มดันขึ้นมาในเหงือก ทำให้รู้สึกคัน สังเกตว่าถ้าลูกมีน้ำลายมาก งอแงตื่นบ่อยตอนกลางคืน อาจจะเป็นไปได้ที่ฟันเริ่มขึ้นแล้ว ควรจัดหายางกัดมาช่วยบรรเทาอาการระคายเหงือกให้ลูกได้เลยค่ะ
หนังสือผ้า : ให้ลูกรู้ว่ามีอะไรสนุกๆ อยู่ในหนังสือ ช่วยปลูกฝังการรักการอ่านค่ะ
ออร์แกนผ้า : ออร์แกนนี้มีขนาดใหญ่ เด็กสามารถสัมผัสเล่นเองได้
ตุ๊กตา Tummy : เป็นตุ๊กตาร้องเพลงสอนภาษาอังกฤษที่มีโหมดต่างๆ ให้เล่นเยอะคุ้มค่า สามารถเล่นได้จนถึงวัย 3 ขวบ
อุปกรณ์เตรียมอาหารเด็ก : เด็กวัยหกเดือนลำไส้น้องพร้อมทำงานแล้ว ควรเริ่มอาหารมื้อแรกด้วยข้าวบดราดนมที่น้องทานประจำ หากน้องไม่ทานอาจเป็นเพราะอาหารข้นเกินไป ลองปรับให้ใสขึ้นจะทานง่ายขึ้น แล้วต่อไปเป็นเมนูผัก เช่น ฟักทอง แครอท เป็นต้น ในวัย 6 เดือนยังไม่ให้เริ่มเนื้อสัตว์และไข่ เพราะย่อยยากและเสี่ยงแพ้ นอกจากนี้จำเป็นต้องเทสอาหารซ้ำ 3-7 วัน ก่อนเริ่มอาหารชนิดใหม่ๆ ทุกครั้ง แม้ว่าน้องยังไม่มีประวัติการแพ้นมก็ตาม
ชุดชามอาหารเด็กและช้อนป้อนข้าวเด็ก : เลือกแบบที่ปลอดภัย ทนความร้อน ตกไม่แตก แนะนำแบบพลาสติก PP, ABS หรือซิลิโคน แต่ไม่ควรใช้ภาชนะเมลามีนเพราะมักมีสารเมลามีนละลายออกมาด้วย
ถ้วยหัดดื่ม : ในระยะนี้เด็กเริ่มทานน้ำได้บ้างแล้ว ให้ทานแค่พอล้างปาก ไม่ให้ทานมากเพราะจะเบียดพื้นที่ในกระเพราอันน้อยนิด หากลูกทานข้าวน้อยก็ไม่ต้องกังวล เพราะในวัย 6-8 เดือนนี้ข้าวยังเป็นแค่อาหารเสริม นมเป็นอาหารหลัก ให้ทานนมต่อจนอิ่ม
เก้าอี้กินข้าวเด็ก : ควรฝึกให้มีวินัยตั้งแต่วัยนี้เพราะฝึกง่ายกว่า เวลาจับนั่งเก้าอี้ของเค้า เด็กจะรู้เองเลยว่าถึงเวลาอาหารแล้ว จะไม่เหนื่อยกับการเดินตามป้อนในอนาคต